น้ำมันปลา (Fish Oil) คือน้ำมันที่สกัดได้จากส่วน เนื้อ หัว หาง หนัง ของปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคคอเรล ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริง ปลาค๊อด ปลาโฮกิ เป็นต้น น้ำมันปลาจะอุดมไปด้วย กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย (Essential Fatty Acid) ซึ่งร่างกายของคนเรามีความจำเป็นที่ต้องใช้ และต้องได้รับจากอาหารที่บริโภคเท่านั้น เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ กรดไขมันที่จำเป็นดังกล่าวนี้ เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว กรดไขมันในกลุ่มของโอเมก้า 3 ที่สำคัญ 2 ชนิด ซึ่งเรียกย่อๆสั้นๆ คือ
1. อีพีเอ (EPA – Eicosapentaenoic acid) มีคุณสมบัติช่วยลด ไตรกลีเซอร์ไรด์ ช่วยลดการอุดตันของหลอดเลือด และช่วยป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคสมองและหัวใจขาดเลือด
2. ดีเอชเอ (DHA – Decosahexaenoic acid) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลสมอง และดวงตา ตลอดจนช่วยเสริมสร้างการพัฒนาการของสมอง และระบบสายตา
น้ำมันตับปลา (Cod Liver Ouil) คือน้ำมันที่สกัดได้จาก ตับ ของปลาทะเลน้ำลึกดังกล่าวเช่นกัน เป็นแหล่งสำคัญที่ให้ วิตามิน เอ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของดวงตาบำรุงผิว และ วิตามิน ดี ช่วยการดูดซึมแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัส บริเวณลำไส้เข้าสู่ร่างกาย ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกให้เป็นไปอย่างปกติ
จากเว็บไซท์ http://variety.thaiza.com ได้เผยแพร่ให้ทราบว่า ชาวเอสกิโมที่อาศัยอยู่แถบหมู่เกาะกรีนแลนด์ มีอุบัติการณ์ของการเกิดโรคหัวใจและข้ออักเสบต่ำ
................................
เว็บไซต์ ข้อมูลอ้างอิง1.http://www.foodsciencetoday.com2.http://www.bangkokhealth.com3.http://www.xten-life.co.th4.http://www.mcot.net5.http://www.meedee.net6.http://www.google.co.th
เป็นเรื่องที่ให้สาระความรู้มากเลยค่า เกี่ยวกับเรื่อง น้ำมันปลา และน้ำมันตับปลา
ตอบลบ