วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

น้ำมันปลา กับ น้ำมันตับปลา

สุนทร   ตรีนันทวัน
ผู้เชี่ยวชาญสาขาเทคโนโลยีการศึกษา สสวท.
สอบถามเพิ่มเติม E-mail : strin@ipst.ac.th
         เราคงจะเคยได้ยินกันบ่อยกับคำพูดที่ว่า น้ำมันปลา   น้ำมันตับปลา  กรดไขมันโอเมก้า 3 และหลายคนคงจะสงสัย และเกิดคำถามขึ้นว่า  น้ำมันปลา กับน้ำมันตับปลา  คืออะไร  เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร  และกรดไขมันโอเมก้า 3  เกี่ยวข้องอะไรกับน้ำมันทั้งสองอย่าง  ผมก็จะชี้แจงและสรุปเรื่องนี้เพื่อความเข้าใจด้วยกันนะครับ  ที่จริงมีหนังสือ  เอกสาร บทความ และ นิตยสารต่างๆ  รวมทั้งเว็บไซท์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
          น้ำมันปลา (Fish Oil)   คือน้ำมันที่สกัดได้จากส่วน   เนื้อ  หัว  หาง  หนัง ของปลาทะเลน้ำลึก  เช่น  ปลาแซลมอน  ปลาแมคคอเรล  ปลาทูน่า  ปลาซาร์ดีน  ปลาเฮอร์ริง  ปลาค๊อด ปลาโฮกิ  เป็นต้น  น้ำมันปลาจะอุดมไปด้วย  กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย (Essential Fatty Acid)  ซึ่งร่างกายของคนเรามีความจำเป็นที่ต้องใช้ และต้องได้รับจากอาหารที่บริโภคเท่านั้น เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ  กรดไขมันที่จำเป็นดังกล่าวนี้ เช่น  กรดไขมันโอเมก้า 3  ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว  กรดไขมันในกลุ่มของโอเมก้า 3  ที่สำคัญ 2 ชนิด  ซึ่งเรียกย่อๆสั้นๆ คือ
1. อีพีเอ (EPA – Eicosapentaenoic acid)  มีคุณสมบัติช่วยลด ไตรกลีเซอร์ไรด์  ช่วยลดการอุดตันของหลอดเลือด และช่วยป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคสมองและหัวใจขาดเลือด
          2. ดีเอชเอ (DHA – Decosahexaenoic acid)  เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลสมอง และดวงตา ตลอดจนช่วยเสริมสร้างการพัฒนาการของสมอง และระบบสายตา
          น้ำมันตับปลา  (Cod Liver Ouil)    คือน้ำมันที่สกัดได้จาก ตับ  ของปลาทะเลน้ำลึกดังกล่าวเช่นกัน   เป็นแหล่งสำคัญที่ให้ วิตามิน เอ  ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของดวงตาบำรุงผิว  และ วิตามิน ดี  ช่วยการดูดซึมแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัส บริเวณลำไส้เข้าสู่ร่างกาย  ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกให้เป็นไปอย่างปกติ
           จากเว็บไซท์  http://variety.thaiza.com  ได้เผยแพร่ให้ทราบว่า  ชาวเอสกิโมที่อาศัยอยู่แถบหมู่เกาะกรีนแลนด์ มีอุบัติการณ์ของการเกิดโรคหัวใจและข้ออักเสบต่ำ
................................
                เว็บไซต์ ข้อมูลอ้างอิง1.http://www.foodsciencetoday.com2.http://www.bangkokhealth.com3.http://www.xten-life.co.th4.http://www.mcot.net5.http://www.meedee.net6.http://www.google.co.th

1 ความคิดเห็น:

  1. เป็นเรื่องที่ให้สาระความรู้มากเลยค่า เกี่ยวกับเรื่อง น้ำมันปลา และน้ำมันตับปลา

    ตอบลบ